วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

นิทานพื้นบ้าน

เรื่อง แก้วหน้าม้า


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเมืองอยู่เมืองหนึ่งชื่อว่า  มิถิลา เมืองนี้ปกครองโดยกษัตริย์ทรงพระนามว่า ภูวดลมงคลราช พระองค์มีพระมเหสีทรงพระนามว่า พระนางนันทา ทั้งสองพระองค์ มีพระโอรสทรงพระนามว่า ปิ่นทองพระนครเจริญรุ่งเรืองและสงบสุข


 

 นางแก้วหน้าม้าเป็นธิดาสามัญชนชาวเมืองมิถิลา เหตุที่นางมีชื่อเช่นนี้เพราะก่อนตั้งครรภ์ผู้เป็นมารดาได้ฝันว่าเทวดานำแก้วมาให้ พอให้กำเนิดบุตรสาวเลยตั้งชื่อว่า แก้วแต่เนื่องจากใบหน้าเหมือนม้า ชาวบ้านเรียกว่า นางแก้วหน้าม้า


พระปิ่นทองนั้นมีรูปลักษณ์ที่สวยอย่างชายชาตรีและเป็นคนที่มีนิสัยดื้อรั้งโดยจะทำให้พระบิดาและพระมารดาปวดหัวอยู่เสมอ มีวันหนึ่งพระปิ่นทองได้มาขออนุญาติพระบิดากับพระมารดาออกไปเล่นว่าวที่ทุ่งพระบิดามารดาก็ได้
อนุญาติ

พระปิ่นทองได้ออกมาเล่นว่าวซึ่งลมแรงมาก ว่าวของพระปิ่นทองได้หลุดมือและปลิวไปไกลทำให้ทหารที่มากับพระปิ่นทองวิ่งตามว่าว ซึ่งนางแก้วหน้าได้เก็บว่าวได้แล้ววิ่งหนี



เมื่อนางเห็นว่าวรูปร่างลักษณะดีก็ตัดสินใจยึดเป็นของตนเองแต่เพียงอึดใจต่อมา  เมื่อเจ้าชายเสด็จมาถึงที่นั้นและได้ยินแก้วพูดก็ทรงโกรธมาก และคิดว่าหญิงผู้นี้พูดจาโยกโย้น่ารำคาญ พระองค์เกลียดนางยิ่งนักเมื่อเห็นนางมีใบหน้าที่ประหลาด แต่ด้วยความที่อยากได้ว่าวของตนคืนจึงแกล้งทำดีกับนางไปอย่างนั้นเองและได้สัญญากับนางว่าจะให้นางเข้าไปอยู่ในวังด้วย



รออยู่หลายวันไม่เห็นพระปิ่นทองมารับ นางแก้วจึงเล่าเรื่องให้พ่อกับแม่ฟัง และขอให้ไปทวงสัญญา เมื่อพ่อแม่ไปทวงสัญญากับพระปิ่น ท้าวภูวดลกริ้วตรัสให้นำตัวไปประหาร แต่พระนางนันทาได้ทัดทานพร้อมเรียกพระโอรสมาสอบถาม พระปิ่นทองยอมรับว่าสัญญาว่าจะให้นางเข้ามาอยู่ในวังเมื่อพระปิ่นทองสัญญาแล้วพระนางนันทาสั่งให้ไปรับตัวนางแก้วมาอยู่ในวัง



 ครั้งไม่มีวอทองมารับสมกับตำแหน่งมเหสี นางแก้วก็ไม่ยอมไป จนในที่สุดนางแก้วได้นั่งในวอทอง พร้อมกับแต่งตัวสวยพริ้ง พอมาถึงวังหลวง ท้าวภูวดลกับพระปิ่นทองเห็นนางแก้วรูปร่างหน้าตาน่าเกลียด กริยามารยาทกระโดกกระเดกก็ทนไม่ได้ คิดหาทางกำจัดนางแก้ว แต่พระนางนันทานึกเอ็นดู
                                                                                                                                                                              


 นางแก้วเข้าวังมาไม่นาน ท้าวภูวดลกับพระปิ่นทองหาทางกำจัดนางแก้ว โดยให้นางแก้วไปยกเขาพระสุเมรุมาไว้ในเมืองภายใน 7 วัน หากทำไม่สำเร็จจะต้องได้รับโทษประหาร แต่ถ้าทำได้จะจัดพิธีอภิเษกสมรสกับพระปิ่นทอง



นางแก้วออกไปตามป่า เสี่ยงสัตย์อธิษฐานกับเหล่าทวยเทพว่าหากตนเป็นเนื้อคู่ของพระปิ่นทอง ขอให้พบเขาพระสุเมรุ เดินทางต่อไปอีกสามวัน พบพระฤาษีรีบเข้าไปกราบและเล่าเรื่องราวทั้งหมด พระฤาษีมีใจเมตตาจึงช่วยถอดหน้าม้าออกให้นางแก้วกลายเป็นหญิงที่งดงามโสภา แล้วเสกหนังสือเป็นเรือเหาะให้ลำหนึ่งพร้อมมอบอีโต้ไว้เป็นอาวุธ 


นางแก้วจึงสามารถไปยกเขาพระสุเมรุมาถวายท้าวภูวดลได้สำเร็จ


      ท้าวภูวดลพยายามหาหนทางที่จะเลี่ยงคำสัญญาเลยมอบให้พระปิ่นทองเดินทางไปอภิเษกกับเจ้าหญิงทัศมาลี ราชธิดาของท้าวพรหมทัต ก่อนเดินทางไป พระปิ่นทองกล่าวว่า ถ้ากลับมานางยังไม่มีลูกจะถูกประหาร นางแก้วนั่งเรือเหาะตามพระปิ่นทองไปแล้วถอดหน้าม้าออก ไปขออาศัยอยู่กับสองตายายในป่า   เมื่อพระปิ่นทองผ่านมา นางแก้วก็ไปอาบน้ำที่ท่า พระปิ่นทองเห็นเข้าเกิดหลงรัก และไปเกี้ยวพาราณสี จนได้นางแก้วเป็นเมีย



 ต่อมานางแก้วตั้งครรภ์ พระปิ่นทองต้องการกลับกรุงมิถิลาและได้มอบแหวนให้นางแก้วเพื่อยืนยันว่าเด็กในท้องนางแก้วเป็นลูกของพระปิ่นทองจริง



 ขณะเดินทางกลับกรุงมิถิลา ระหว่างอยู่ในทะเลย เรือสำเภาของพระปิ่นทองถูกมรสุมพัดเข้าไปในถิ่นยักษ์


นางแก้วคลอดบุตรชายชื่อว่า ปิ่นแก้วก็คิดจะพาลูกกลับไปหาพระปิ่นทอง โดยได้แวะไปลาพระฤาษี พระฤาษีบอกนางแก้วว่า พระปิ่นทองอยู่ในอันตราย นางแก้วฝากลูกไว้กับพระฤาษีแล้วแปลงร่างเป็นผู้ชายขึ้นเรือเหาะไปรบกับท้าวพาลราช เจ้าเมืองยักษ์ จนได้รับชัยชนะ



 แก้วมารอพระปิ่นทองพร้อมกับอุ้มลูกที่ฤาษีตั้งชื่อไว้ว่าพระปิ่นแก้ว พระปิ่นทองหาว่าแก้วหลอกว่าเป็นลูกตนแต่เมื่อเห็นแหวนที่ตนให้ไว้ก็พูดไม่ออก กล่าวถึงท้าวกายมาต ที่เป็นญาติกับท้าวพาลราชที่ถูกแห้วสังหาร เมื่อทราบเรื่องก็เกิดความแค้นยกไพร่พลยักษ์มาล้อมเมืองมิถิลา


พระปิ่นทองตามไปงอนง้อนางแก้ว แต่แก้วก็ยังเล่นตัว จนพระปิ่นทองทำท่าจะเชือดคอตายแก้วจึงยอมถอดหน้าม้า สร้างยินดีให้กับทุกคน พิธีอภิเษกสมรสจัดขึ้นอย่างเอิกเกริก ไม่นานแก้วก็ตั้งครรภ์ ท้าวประกายกรดรู้ข่าวท้าวประกายมาตถูกฆ่าตายก็แค้น คิดจะบุกเมืองมิถิลาท้าวประกายกรดบุกเมืองมิถิลา ประชาชนแตกตื่นกันทั่ว พระปิ่นแก้วยกทัพไปสู้กับพวกยักษ์แต่สู้ไม่ได้ ต้องถอยร่น แก้วจำต้องออกไปสู้กับยักษ์ ทั้งๆที่ตั้งครรภ์ แก้วที่ท้องแก่สู้กับท้าวประกายกรด ถูกท้าวประกายกรดถีบ แก้วเจ็บท้อง คลอดพระธิดาออกมา 3 องค์ ท้าวประกายกรดตกใจมากที่รู้ว่าแก้วเป็นหญิง  แก้วใช้ผ้าเปื้อนเลือดฟาดเข้าใส่ ทำให้มนต์ยักษ์เสื่อม ท้าวประกายกรดถูกฆ่าตาย เมืองมิถิลากลับสู่ความสงบตั้งแต่นั้นมา

   



 ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้

อย่ามองคนแค่เพียงภายนอก คนดีไม่ใช่ดูที่รูปร่างหน้าตา แต่ดูที่นิสัย 
 และจิตใจ




จัดทำโดย
นางสาวจิราภา คงชัยยา เลขที่ 2
นางสาวเกษศิรินทร์ สุพร เลขที่ 11
สาขาสังคมศึกษาชั้นปีที่ 3 ห้อง 3